วิญญาณ ๕ ที่เป็นกุศลวิบาก
[๓๓๘] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน?
จักขุวิญญาณเป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา
มีรูปเป็นอารมณ์ เกิดขึ้นเพราะกามาวจรกุศลกรรม
อันได้กระทำไว้แล้ว ได้สั่งสมไว้แล้ว
ในสมัยใด
[๓๓๙-๓๔๓] กด 👉 ผัสสะ เวทนา สัญญา
เจตนา จิต
[๓๔๔-๓๔๕] กด 👉 อุเบกขา เอกัคคตา
[๓๔๖-๓๔๘] กด 👉 มนินทรีย์ อุเปกขินทรีย์
ชีวิตินทรีย์
มีในสมัยนั้น หรือนามธรรม ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต.
[๓๔๙] หรือนามธรรม
ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๓๕๐] ก็ขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒
อาหาร ๓ อินทรีย์ ๓ ผัสสะ ๑ ฯลฯ จักขุ วิญญาณธาตุ ๑ ธัมมายตนะ ๑ ธรรมธาตุ ๑
มีในสมัยนั้น หรือนามธรรม
ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต ฯลฯ
[๓๕๑] สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ผัสสะ เจตนา เอกัคคตา ชีวิตินทรีย์
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
เว้นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์
มีอยู่ในสมัยนั้น นี้ชื่อว่า สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๓๕๒] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน?
โสตวิญญาณอันเป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา
มีเสียงเป็นอารมณ์เกิดขึ้น ฯลฯ ฆานวิญญาณอันเป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา
มีกลิ่นเป็นอารมณ์เกิดขึ้น ฯลฯ ชิวหาวิญญาณอันเป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา
มีรสเป็นอารมณ์เกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณอันเป็นวิบาก สหรคตด้วยสุขเวทนา
มีโผฏฐัพพะเป็นอารมณ์เกิดขึ้น เพราะกามาวจรกุศลกรรมอันได้ทำไว้แล้ว
ได้สั่งสมไว้แล้ว ในสมัยใด
ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต
สุข เอกัคคตา
มนินทรีย์ สุขินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรม ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต.
[๓๕๓-๓๖๒] กด 👉 ผัสสะ ถึง ชีวิตินทรีย์
[๓๖๓] หรือนามธรรม
ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๓๖๔] ก็ขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒
อาหาร ๓ อินทรีย์ ๓ ผัสสะ ๑ ฯลฯ กายวิญญาณธาตุ ๑ ธัมมายตนะ ๑ ธรรมธาตุ ๑
มีในสมัยนั้น หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต ฯลฯ
[๓๖๕] สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ผัสสะ เจตนา เอกัคคตา ชีวิตินทรีย์
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
เว้นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์
มีอยู่ในสมัยนั้น นี้ชื่อว่า สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. วิญญาณ ๕ ที่เป็นกุศลวิบาก จบ -------------
[๓๖๖-๓๘๑] 👉มโนธาตุ เป็นกุศลวิบาก
มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกุศลวิบาก สหรคตด้วยโสมนัส [๓๘๒-๓๙๘] 👉 มโนวิญญาณธาตุ(โสมนัส)
มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกุศลวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา [๓๙๙-๔๑๔] 👉 มโนวิญญาณธตุ(อุเบกขา)
[๔๑๕-๔๑๖] 👉 มหาวิบาก ๘
มีรูปเป็นอารมณ์ เกิดขึ้นเพราะกามาวจรกุศลกรรม
อันได้กระทำไว้แล้ว ได้สั่งสมไว้แล้ว
ในสมัยใด
[๓๓๙-๓๔๓] กด 👉 ผัสสะ เวทนา สัญญา
เจตนา จิต
[๓๔๔-๓๔๕] กด 👉 อุเบกขา เอกัคคตา
[๓๔๖-๓๔๘] กด 👉 มนินทรีย์ อุเปกขินทรีย์
ชีวิตินทรีย์
มีในสมัยนั้น หรือนามธรรม ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต.
[๓๔๙] หรือนามธรรม
ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๓๕๐] ก็ขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒
อาหาร ๓ อินทรีย์ ๓ ผัสสะ ๑ ฯลฯ จักขุ วิญญาณธาตุ ๑ ธัมมายตนะ ๑ ธรรมธาตุ ๑
มีในสมัยนั้น หรือนามธรรม
ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต ฯลฯ
[๓๕๑] สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ผัสสะ เจตนา เอกัคคตา ชีวิตินทรีย์
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
เว้นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์
มีอยู่ในสมัยนั้น นี้ชื่อว่า สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๓๕๒] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน?
โสตวิญญาณอันเป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา
มีเสียงเป็นอารมณ์เกิดขึ้น ฯลฯ ฆานวิญญาณอันเป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา
มีกลิ่นเป็นอารมณ์เกิดขึ้น ฯลฯ ชิวหาวิญญาณอันเป็นวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา
มีรสเป็นอารมณ์เกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณอันเป็นวิบาก สหรคตด้วยสุขเวทนา
มีโผฏฐัพพะเป็นอารมณ์เกิดขึ้น เพราะกามาวจรกุศลกรรมอันได้ทำไว้แล้ว
ได้สั่งสมไว้แล้ว ในสมัยใด
ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต
สุข เอกัคคตา
มนินทรีย์ สุขินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรม ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต.
[๓๕๓-๓๖๒] กด 👉 ผัสสะ ถึง ชีวิตินทรีย์
[๓๖๓] หรือนามธรรม
ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๓๖๔] ก็ขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒
อาหาร ๓ อินทรีย์ ๓ ผัสสะ ๑ ฯลฯ กายวิญญาณธาตุ ๑ ธัมมายตนะ ๑ ธรรมธาตุ ๑
มีในสมัยนั้น หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต ฯลฯ
[๓๖๕] สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ผัสสะ เจตนา เอกัคคตา ชีวิตินทรีย์
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
เว้นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์
มีอยู่ในสมัยนั้น นี้ชื่อว่า สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. วิญญาณ ๕ ที่เป็นกุศลวิบาก จบ -------------
[๓๖๖-๓๘๑] 👉มโนธาตุ เป็นกุศลวิบาก
มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกุศลวิบาก สหรคตด้วยโสมนัส [๓๘๒-๓๙๘] 👉 มโนวิญญาณธาตุ(โสมนัส)
มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกุศลวิบาก สหรคตด้วยอุเบกขา [๓๙๙-๔๑๔] 👉 มโนวิญญาณธตุ(อุเบกขา)
[๔๑๕-๔๑๖] 👉 มหาวิบาก ๘