มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกุศลวิบาก
สหรคตด้วยโสมนัส
[๓๘๒] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน?
มโนวิญญาณธาตุอันวิบาก สหรคตด้วยโสมนัส
มีรูปเป็นอารมณ์ ฯลฯ มีธรรมเป็นอารมณ์
หรือปรารภอารมณ์ใดๆ เกิดขึ้น
เพราะกามาวจรกุศลกรรมอันได้ทำไว้แล้ว
ได้สั่งสมไว้แล้ว ในสมัยใด
ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต
วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
มนินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๓๘๓] ผัสสะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การกระทบ กิริยาที่ถูกกระทบ กิริยาที่ถูกต้อง
ความถูกต้อง ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า ผัสสะ มีในสมัยนั้น. [๓๘๔] เวทนา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความสบายทางใจ ความสุขทางใจ
อันเกิดแต่สัมผัสมโนวิญญาณธาตุที่สมกัน
ความเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า เวทนา มีในสมัยนั้น. [๓๘๕] สัญญา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การจำ กิริยาจำ ความจำ
อันเกิดแต่สัมผัสแห่งมโนวิญญาณธาตุที่สมกัน
ในสมัยนั้นอันใด นี้ชื่อว่า สัญญา มีในสมัยนั้น. [๓๘๖] เจตนา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การคิด กิริยาที่คิด ความคิด
อันเกิดแต่สัมผัสแห่งมโนวิญญาณธาตุที่สมกัน
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า เจตนา มีในสมัยนั้น. [๓๘๗] จิต มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? จิต มโน มานัส หทัย ปัณฑระ มโน มนายตนะ
มนินทรีย์ วิญญาณ วิญญาณขันธ์
มโนวิญญาณธาตุที่สมกัน ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า จิต มีในสมัยนั้น.
[๓๘๘] วิตก มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความตรึก ความตรึกอย่างแรง ความดำริ
ความที่จิตแนบอยู่ในอารมณ์
ความที่จิตแนบสนิทอยู่ในอารมณ์
ความยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า วิตก มีในสมัยนั้น. [๓๘๙] วิจาร มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความตรอง ความพิจารณา ความตามพิจารณา
ความเข้าไปพิจารณา ความที่จิตสืบต่ออารมณ์
ความที่จิตเพ่งอารมณ์ ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า วิจาร มีในสมัยนั้น. [๓๙๐] ปีติ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความอิ่มใจ ความปราโมทย์ ความยินดียิ่ง ความบันเทิง
ความร่าเริง ความรื่นเริง ความปลื้มใจ ความตื่นเต้น
ความที่จิตชื่นชมยินดี ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า ปีติ มีในสมัยนั้น. [๓๙๑] สุข มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความสบายทางใจ ความสุขทางใจ
ความเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า สุข มีในสมัยนั้น. [๓๙๒] เอกัคคตา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความตั้งอยู่แห่งจิต ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า เอกัคคตา มีในสมัยนั้น.
[๓๙๓] มนินทรีย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? จิต มโน มานัส หทัย ปัณฑระ มโน มนายตนะ
อินทรีย์คือมโน วิญญาณวิญญาณขันธ์
มโนวิญญาณธาตุที่สมกัน ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า มนินทรีย์ มีในสมัยนั้น. [๓๙๔] โสมนัสสินทรีย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความสบายทางใจ ความสุขทางใจ
ความเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่าโสมนัสสินทรีย์ มีในสมัยนั้น. [๓๙๕] ชีวิตินทรีย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? อายุ ความดำรงอยู่ ความเป็นไปอยู่
กิริยาที่เป็นไปอยู่ อาการที่สืบเนื่องกันอยู่
ความประพฤติเป็นไปอยู่ความหล่อเลี้ยงอยู่ ชีวิต
อินทรีย์คือชีวิต ของนามธรรมนั้นๆ ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า ชีวิตินทรีย์ มีในสมัยนั้น.
[๓๙๖] หรือนามธรรม
ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๓๙๗] ก็ขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒
อาหาร ๓ อินทรีย์ ๓ ผัสสะ ๑ ฯลฯ มโนวิญญาณธาตุ ๑
ธัมมายตนะ ๑ ธรรมธาตุ ๑ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น. สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต ฯลฯ [๓๙๘] สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้นเป็นไฉน?
ผัสสะ เจตนา
วิตก วิจาร ปีติ เอกัคคตา
ชีวิตินทรีย์
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
เว้นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ มีอยู่ในสมัยนั้น
นี้ชื่อว่า สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกุศลวิบากสหรคตด้วยโสมนัส จบ -------------------
มีรูปเป็นอารมณ์ ฯลฯ มีธรรมเป็นอารมณ์
หรือปรารภอารมณ์ใดๆ เกิดขึ้น
เพราะกามาวจรกุศลกรรมอันได้ทำไว้แล้ว
ได้สั่งสมไว้แล้ว ในสมัยใด
ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต
วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
มนินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๓๘๓] ผัสสะ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การกระทบ กิริยาที่ถูกกระทบ กิริยาที่ถูกต้อง
ความถูกต้อง ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า ผัสสะ มีในสมัยนั้น. [๓๘๔] เวทนา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความสบายทางใจ ความสุขทางใจ
อันเกิดแต่สัมผัสมโนวิญญาณธาตุที่สมกัน
ความเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า เวทนา มีในสมัยนั้น. [๓๘๕] สัญญา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การจำ กิริยาจำ ความจำ
อันเกิดแต่สัมผัสแห่งมโนวิญญาณธาตุที่สมกัน
ในสมัยนั้นอันใด นี้ชื่อว่า สัญญา มีในสมัยนั้น. [๓๘๖] เจตนา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? การคิด กิริยาที่คิด ความคิด
อันเกิดแต่สัมผัสแห่งมโนวิญญาณธาตุที่สมกัน
ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า เจตนา มีในสมัยนั้น. [๓๘๗] จิต มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? จิต มโน มานัส หทัย ปัณฑระ มโน มนายตนะ
มนินทรีย์ วิญญาณ วิญญาณขันธ์
มโนวิญญาณธาตุที่สมกัน ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า จิต มีในสมัยนั้น.
[๓๘๘] วิตก มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความตรึก ความตรึกอย่างแรง ความดำริ
ความที่จิตแนบอยู่ในอารมณ์
ความที่จิตแนบสนิทอยู่ในอารมณ์
ความยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า วิตก มีในสมัยนั้น. [๓๘๙] วิจาร มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความตรอง ความพิจารณา ความตามพิจารณา
ความเข้าไปพิจารณา ความที่จิตสืบต่ออารมณ์
ความที่จิตเพ่งอารมณ์ ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า วิจาร มีในสมัยนั้น. [๓๙๐] ปีติ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน?
ความอิ่มใจ ความปราโมทย์ ความยินดียิ่ง ความบันเทิง
ความร่าเริง ความรื่นเริง ความปลื้มใจ ความตื่นเต้น
ความที่จิตชื่นชมยินดี ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า ปีติ มีในสมัยนั้น. [๓๙๑] สุข มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความสบายทางใจ ความสุขทางใจ
ความเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า สุข มีในสมัยนั้น. [๓๙๒] เอกัคคตา มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความตั้งอยู่แห่งจิต ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า เอกัคคตา มีในสมัยนั้น.
[๓๙๓] มนินทรีย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? จิต มโน มานัส หทัย ปัณฑระ มโน มนายตนะ
อินทรีย์คือมโน วิญญาณวิญญาณขันธ์
มโนวิญญาณธาตุที่สมกัน ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่า มนินทรีย์ มีในสมัยนั้น. [๓๙๔] โสมนัสสินทรีย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? ความสบายทางใจ ความสุขทางใจ
ความเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส
กิริยาเสวยอารมณ์ที่สบายเป็นสุข
อันเกิดแต่เจโตสัมผัส ในสมัยนั้น อันใด
นี้ชื่อว่าโสมนัสสินทรีย์ มีในสมัยนั้น. [๓๙๕] ชีวิตินทรีย์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน? อายุ ความดำรงอยู่ ความเป็นไปอยู่
กิริยาที่เป็นไปอยู่ อาการที่สืบเนื่องกันอยู่
ความประพฤติเป็นไปอยู่ความหล่อเลี้ยงอยู่ ชีวิต
อินทรีย์คือชีวิต ของนามธรรมนั้นๆ ในสมัยนั้น อันใด นี้ชื่อว่า ชีวิตินทรีย์ มีในสมัยนั้น.
[๓๙๖] หรือนามธรรม
ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๓๙๗] ก็ขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ ธาตุ ๒
อาหาร ๓ อินทรีย์ ๓ ผัสสะ ๑ ฯลฯ มโนวิญญาณธาตุ ๑
ธัมมายตนะ ๑ ธรรมธาตุ ๑ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น. สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต ฯลฯ [๓๙๘] สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้นเป็นไฉน?
ผัสสะ เจตนา
วิตก วิจาร ปีติ เอกัคคตา
ชีวิตินทรีย์
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด
เว้นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ มีอยู่ในสมัยนั้น
นี้ชื่อว่า สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกุศลวิบากสหรคตด้วยโสมนัส จบ -------------------