Skip to main content

3.3 อรูปาวจรวิบาก

อรูปาวจรวิบาก [๔๑๘] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงอรูปภูมิ เพราะก้าวล่วงรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง

เพราะความดับไปแห่งปฏิฆสัญญา
เพราะไม่มนสิการ ซึ่งนานัตตสัญญา
จึงบรรลุจตุตถฌาน
อันสหรคตด้วยอากาสานัญจายตนสัญญา
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ได้ฯลฯ อยู่ในสมัยใด ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่าธรรมเป็นกุศล. โยคาวจรบุคคล
เพราะก้าวล่วงรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง
เพราะความดับไปแห่งปฏิฆสัญญา
เพราะไม่มนสิการซึ่งนานัตตสัญญา
จึงบรรลุจตุตถฌาน
อันสหรคตด้วยอากาสานัญจายตนสัญญา
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ได้ ฯลฯ
อันเป็นวิบาก เพราะอรูปาวจรกุศลกรรม
อันได้ทำไว้แล้ว ได้สั่งสมไว้แล้ว นั้นแล อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ​ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๑๙] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงอรูปภูมิ เพราะก้าวล่วงอากาสานัญจายตนะ โดยประการทั้งปวง จึงบรรลุจตุตถฌาน
อันสหรคตด้วยวิญญาณัญจายตนสัญญา
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ได้ ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
โยคาวจรบุคคล
เพราะก้าวล่วงอากาสานัญจายตนะโดยประการทั้งปวง
จึงบรรลุจตุตถฌาน อันสหรคตด้วยวิญญาณัญจายตนสัญญา
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ได้ ฯลฯ
อันเป็นวิบาก
เพราะอรูปาวจรกุศลกรรมอันได้ทำไว้แล้ว
ได้สั่งสมไว้แล้ว นั้นแล อยู่ในสมัยใด ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๒๐] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงอรูปภูมิ เพราะก้าวล่วงวิญญาณัญจายตน โดยประการทั้งปวง จึงบรรลุจตุตถฌาน
อันสหรคตด้วยอากิญจัญญยตนสัญญา
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละทุกข์ละสุขได้ ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. โยคาวจรบุคคล เพราะก้าวล่วงวิญญาณัญจายตนะ
โดยประการทั้งปวง จึงบรรลุจตุตถฌาน อันสหรคตด้วยอากิญจัญญายตนสัญญา
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ได้ ฯลฯ
อันเป็นวิบาก
เพราะอรูปาวจรกุศลกรรมอันได้ทำไว้แล้ว
ได้สั่งสมไว้แล้ว นั้นแล อยู่ในสมัยใด ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๒๑] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญมรรคปฏิปทาเพื่อเข้าถึงอรูปภูมิ เพราะก้าวล่วงอากิญจัญญายตนะ โดยประการทั้งปวง จึงบรรลุจตุตถฌาน
อันสหรคตด้วยเนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. โยคาวจรบุคคล เพราะก้าวล่วงอากิญจัญญายตนะ
โดยประการทั้งปวง จึงบรรลุจตุตถฌาน อันสหรคตด้วยเนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา
ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ได้ ฯลฯ อันเป็นวิบาก
เพราะรูปาวจรกุศลกรรม อันได้ทำไว้แล้ว
ได้สั่งสมไว้แล้ว นั้นแล อยู่ในสมัยใด ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. อรูปาวจรวิบาก จบ. ------------------
อธิบาย​ : มนสิการ​
หมายถึง​ การกำหนด​ไว้ในใจ.