อัปปณิหิตปฏิปทา
[๔๔๐] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน?
โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน
เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อันเป็นวิบาก
เพราะกุศลฌานเป็นโลกุตตระอันได้ทำไว้แล้ว
ได้เจริญไว้แล้วนั้นแล อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๔๑] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน
ชนิด อนิมิตตะ เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อันเป็นวิบาก เพราะกุศลฌานเป็นโลกุตตระ
อันได้ทำไว้แล้ว ได้เจริญไว้แล้วนั้นแล อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๔๒] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อันเป็นวิบาก เพราะกุศลฌานเป็นโลกุตตระ อันได้ทำไว้แล้ว ได้เจริญไว้แล้วนั้นแล อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต [๔๔๓] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอนิมิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้กุศล ฯลฯ ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๔๔] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
[๔๔๐] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน?
โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน
เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใดผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อันเป็นวิบาก
เพราะกุศลฌานเป็นโลกุตตระอันได้ทำไว้แล้ว
ได้เจริญไว้แล้วนั้นแล อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๔๑] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน
ชนิด อนิมิตตะ เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อันเป็นวิบาก เพราะกุศลฌานเป็นโลกุตตระ
อันได้ทำไว้แล้ว ได้เจริญไว้แล้วนั้นแล อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๔๒] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล. โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อันเป็นวิบาก เพราะกุศลฌานเป็นโลกุตตระ อันได้ทำไว้แล้ว ได้เจริญไว้แล้วนั้นแล อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต [๔๔๓] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอนิมิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้กุศล ฯลฯ ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๔๔] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ
บรรลุปัญจมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอนิมิตตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดสุญญตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. อัปปณิหิตปฏิปทา จบ. -----------
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอนิมิตตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดสุญญตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. อัปปณิหิตปฏิปทา จบ. -----------