1. เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
2. เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อันเป็นวิบาก เพราะกุศลฌานเป็นโลกุตตระ
อันได้ทำไว้แล้ว ได้เจริญไว้แล้วนั้นแล อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อัญญินทรีย์ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
อธิบาย : ข้อความข้างบนนี้
ข้อ1.จะใช้แทนด้วยอักษร A
ข้อ2.จะใช้แทนด้วยอักษร B สุทธิกปฏิปทา [๔๒๒] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล A
โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดสุญญตะ B
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๒๓] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล A
โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดอนิมิตตะ B
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต.
[๔๒๔] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล A
โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ B
[๔๒๕] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ บรรลุจตุตถฌานฯลฯ
บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ บรรลุปัญจมฌาน
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอนิมิตตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๒๖] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ บรรลุปัญจมฌาน เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดสุญญตะ เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอนิมิตตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น
สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นกุศล.
2. เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
อันเป็นวิบาก เพราะกุศลฌานเป็นโลกุตตระ
อันได้ทำไว้แล้ว ได้เจริญไว้แล้วนั้นแล อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อัญญินทรีย์ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
อธิบาย : ข้อความข้างบนนี้
ข้อ1.จะใช้แทนด้วยอักษร A
ข้อ2.จะใช้แทนด้วยอักษร B สุทธิกปฏิปทา [๔๒๒] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล A
โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดสุญญตะ B
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๒๓] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล A
โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดอนิมิตตะ B
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต.
[๔๒๔] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล A
โยคาวจรบุคคล สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว
บรรลุปฐมฌาน ชนิดอัปปณิหิตะ B
[๔๒๕] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ
บรรลุตติยฌาน ฯลฯ บรรลุจตุตถฌานฯลฯ
บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ บรรลุปัญจมฌาน
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ อยู่ในสมัยใด
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดสุญญตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอนิมิตตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต. [๔๒๖] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน? โยคาวจรบุคคล เจริญฌานเป็นโลกุตตระ
อันเป็นเครื่องออกไปจากโลกนำไปสู่นิพพาน เพื่อละทิฏฐิ เพื่อบรรลุภูมิเบื้องต้น สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌาน เป็นทุกขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
เป็นสุขาปฏิปทาทันธาภิญญา ฯลฯ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ บรรลุตติยฌาน ฯลฯ
บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ บรรลุปัญจมฌาน เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา ฯลฯ
อยู่ในสมัยใด
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดสุญญตะ เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอนิมิตตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ฯลฯ เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ กุศล ฯลฯ ชนิดอัปปณิหิตะ
เป็นสุขาปฏิปทาขิปปาภิญญา
ดังนี้ วิบาก ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต.
สุทธิกปฏิปทา จบ
---------